การทำฐานรากเพื่อรองรับบ้านคอนเทนเนอร์

ในปัจจุบันบ้านตู้คอนเทนเนอร์ หรือสำนักงานต่าง ๆ ได้รับความนิยมมากขึ้นด้วยปัจจัยหลายด้าน เช่น ความรวดเร็วในการก่อสร้าง ราคาประหยัด มีดีไซน์สุดแปลกตา และอีกมากมาย แต่เหนือสิ่งอื่นใดก่อนที่คุณจะใช้รถเฮี๊ยบ รถเทรลเลอร์ ขนส่งตู้คอนเทนเนอร์มายังบริเวณที่จะทำการติดตั้งก็ต้องมีการ “เตรียมพื้นที่” ให้เหมาะสมเพื่อสร้างความมั่นใจว่าเมื่อปลูกสร้างแล้วไม่มีปัญหาตามมาภายหลัง ซึ่งขั้นตอนที่อยากแนะนำ มีดังต่อไปนี้
 

การเตรียมพื้นที่ก่อนติดตั้งตู้คอนเทนเนอร์

1. จัดการพื้นที่ว่างเปล่าโดยรอบให้สะอาดตา ยิ่งถ้าคุณทำบ้านตู้คอนเทนเนอร์ด้วยแล้ว การมีต้นหญ้ารก หรือต้นไม้อยู่จำนวนมาก อาจเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์อันตรายซึ่งไม่ใช่เรื่องดีแน่ ๆ

2. ในกรณีพื้นที่เป็นแอ่งน้ำมาก่อน ต้องมีการถมดินอย่างแน่นหนา และควรปล่อยให้ดินยึดตัวได้เต็มที่ ย้ำว่ายิ่งถมสูงเท่าไหร่โอกาสทรุดตัวจะมีสูงเท่านั้น หากต้องถมแนะนำให้ปล่อยทิ้งเอาไว้อย่างน้อย 8-12 เดือนขึ้นไป จะเพิ่มความมั่นใจให้กับการสร้างบ้านทุกประเภทได้อย่างดี

3.หลังจากพื้นที่และหน้าดินพร้อมอย่าพึ่งคิดว่าขนส่งตู้ด้วยรถเครนเพื่อติดตั้งได้ทันที เหตุเพราะตู้คอนเทนเนอร์มีน้ำหนักมาก การตั้งเอาไว้บนพื้นดินเฉย ๆ ถือเป็นข้อเสียที่อาจทำให้ดินยุบตัวและสร้างความเสียหายขึ้นมาได้ รวมถึงโครงสร้างที่เป็นหลักจะทำให้ดูดความชื้นของดิน ส่งผลถึงการเกิดสนิมและความเสียหายรวดเร็วกว่าปกติ ดังนั้นวิธีที่เหมาะสมจึงควรอยู่บนพื้นคอนกรีต แต่ถ้าหากไม่อยากเสียเงินปูพื้นคอนกรีตหรือพื้นปูนให้เสียเงินเพิ่ม จะใช้เสาเข็มคอนกรีตหกเหลี่ยมแบบกลวง หรือเสาเข็มไมโครไพล์รูปตัว I ขนาดความยาวตั้งแต่ 6 เมตรขึ้นไปมาเป็นฐานรองด้านล่างก็ได้

4. วิธีในการเตรียมพื้นที่เพื่อทำบ้านตู้คอนเทนเนอร์ตรงนี้สำคัญมาก ตามที่ระบุไปคือให้กดเสาลงด้วยระยะไม่ต่ำกว่า 6 เมตร โดยเครื่องตอกเสาเข็มจะง่ายมากที่สุด จากนั้นให้ทำฐานรากคอนกรีตยกขึ้นสูงจากพื้นดินประมาณ 50 ซม. จะเพิ่มความปลอดภัยและความมั่นคงได้ดี

นี่คือขั้นตอนง่าย ๆ ในการเตรียมพื้นที่ก่อนใช้รถเทรลเลอร์ รถเครนขนส่งตู้คอนเทนเนอร์มาติดตั้ง จะสังเกตเลยว่าฐานรากเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญมากสุด เพราะบ่งบอกถึงความมั่นคงแข็งแรง ยิ่งถ้าเลือกตู้คอนเทนเนอร์เกรดส่งออกคุณภาพดี ราคาสูงกว่าปกติด้วยแล้ว แต่ถ้าเตรียมพื้นที่ไม่ตอบโจทย์มากพอก็อาจต้องมาปรับปรุงกันขนานใหญ่ เสียเงิน เสียเวลาเพิ่มเติมโดยใช่เหตุ ลองนำไปวางแผนแล้วทำตามกันเลย หรือจะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนลงมือก็ไม่มีปัญหา